
๐ การเมือง - อดีต รมช.มหาดไทยย้ำคนรุ่นใหม่อย่าหมดหวังในการเลือกตั้งท้องถิ่น ชี้รัฐต้องให้ความสำคัญกับการเลือกตั้งอย่างเท่าเทียมทุกระดับ ฉะเลือกตั้ง อบจ.68 ไม่มีเลือกตั้งล่วงหน้าซ้ำยังเลือกวันเสาร์เป็นอุปสรรคต่อการออกมาใช้สิทธิ์ เชื่อประชาธิปไตยต้องสร้างจากเสียงของประชาชน
20 กุมภาพันธ์ 2568 - นายนิพนธ์ บุญญามณี อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย อดีตนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดสงขลา และอดีต สส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ร่วมเสวนาในหัวข้อ "เลือกตั้ง: อบจ. 68 สะท้อนอะไร?" จัดโดยชมรมรัฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามคำแหง ณ ห้อง SB0301 อาคารศรีศรัทธา โดยมีรองศาสตราจารย์ ดร.รงค์ บุญสวยขวัญ นายศักดา นพสิทธิ์ และนายเฉลียว คงตุก ร่วมแลกเปลี่ยนมุมมอง ดำเนินรายการโดย ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.เพิ่มศักดิ์ จะเรียมพันธ์
นายนิพนธ์กล่าวถึงปัญหาการออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งของประชาชนที่ยังอยู่ในระดับต่ำ โดยเฉพาะการเลือกตั้งองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ซึ่งเป็นกลไกสำคัญในการพัฒนาท้องถิ่นและมีความใกล้ชิดกับประชาชนมากที่สุด แต่กลับพบว่าอัตราการใช้สิทธิ์ยังต่ำกว่าที่ควรจะเป็น ซึ่งส่งผลกระทบโดยตรงต่อคุณภาพของประชาธิปไตย
การที่ประชาชนออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งน้อย ย่อมทำให้กระบวนการประชาธิปไตยขาดพลัง เปิดช่องให้กลุ่มทุนและกลุ่มอิทธิพลเข้ามามีบทบาทเหนือเสียงของประชาชน การเลือกตั้งเป็นเรื่องของทุกคน ไม่ควรถูกผูกขาดโดยกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
นายนิพนธ์ยังได้ตั้งข้อสังเกตว่า การไม่มีระบบเลือกตั้งล่วงหน้าสำหรับการเลือกตั้งท้องถิ่นเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้ประชาชนบางส่วนเสียสิทธิ์หลายประการ หากไม่ได้ไปใช้สิทธิ์ โดยเฉพาะกลุ่มแรงงานที่ต้องทำงานนอกพื้นที่ หรือนักศึกษาที่ไปศึกษานอกภูมิลำเนา หรือผู้ที่เดินทางกลับภูมิลำเนาในวันเลือกตั้งไม่ได้ อีกทั้งการเลือกตั้ง อบจ. 2568 ถูกกำหนดให้จัดขึ้นในวันเสาร์ ซึ่งส่งผลต่อความสะดวกของประชาชนในการออกมาใช้สิทธิ์
ถ้าการเลือกตั้งระดับชาติจัดให้มีการเลือกตั้งล่วงหน้าได้ ทำไมการเลือกตั้งท้องถิ่นถึงไม่มีมาตรฐานเดียวกัน เราควรทำให้การเลือกตั้งเป็นเรื่องที่ประชาชนเข้าถึงได้ง่ายและสะดวกขึ้น ยิ่งการเลือกตั้งสะดวกมากเท่าไหร่ ประชาชนก็จะออกมาใช้สิทธิ์มากขึ้น และผลการเลือกตั้งก็จะสะท้อนเจตนารมณ์ที่แท้จริงของประชาชน
นายนิพนธ์ยังกล่าวถึง บทบาทของคนรุ่นใหม่ ในการเลือกตั้ง โดยเน้นย้ำว่า แม้หลายคนอาจรู้สึกผิดหวังกับระบบการเมืองไทย แต่ไม่ควรหมดหวัง เพราะการเลือกตั้ง คือ โอกาสสำคัญในการเปลี่ยนแปลง และเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ประชาชนกำหนดอนาคตของประเทศได้
ผมอยากให้คนรุ่นใหม่เชื่อมั่นว่าการเมืองยังเปลี่ยนแปลงได้ หากเราร่วมกันเลือกผู้แทนที่มีคุณภาพ ตรงกับอุดมการณ์ของประชาชน ไม่ใช่เลือกเพราะถูกซื้อเสียงหรือมีอิทธิพลทางการเมือง เราต้องร่วมกันทำให้เห็นว่าการใช้เงินซื้อเสียงเป็นอันตรายต่อระบอบประชาธิปไตย หากคนรุ่นใหม่เพิกเฉยต่อการเลือกตั้ง คนที่ได้อำนาจไปก็จะเป็นกลุ่มเดิมที่ไม่ได้สะท้อนความต้องการของประชาชน ซึ่งจะทำให้โอกาสในการเปลี่ยนแปลงประเทศลดลง การห้ามคนมีเงินไม่ให้แจกเงินคงทำยากแล้ว ก็ต้องบอกว่าใครแจกหรือให้เงินก็รับ แต่เวลาเข้าคูหาเลือกตั้ง ต้องเลือกคนดีมีความรู้ มีความสามารถเข้ามาเป็นตัวแทน
นายนิพนธ์กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้ภาครัฐมีบทบาทมากขึ้นในการรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงความสำคัญของการเลือกตั้ง พร้อมทั้งส่งเสริมให้การเลือกตั้งเป็นเรื่องที่ประชาชนทุกกลุ่มเข้าถึงได้อย่างเท่าเทียม นอกจากนี้ปัญหาการซื้อเสียงที่เป็นอุปสรรคสำคัญของการเมืองไทย ประชาชนต้องเลือกผู้แทนที่มีคุณภาพ ดูแลประชาชนได้จริง ไม่ใช่เลือกเพียงเพราะถูกแจกเงินหรือเป็นผู้ที่มีผลประโยชน์ทับซ้อน
การเสวนาครั้งนี้สะท้อนถึง ความจำเป็นในการปฏิรูปการเลือกตั้งท้องถิ่น เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมมากขึ้น การเลือกตั้งไม่ใช่เพียงแค่ "หน้าที่" แต่เป็นเครื่องมือสำคัญในการรักษาระบบประชาธิปไตย ประชาธิปไตยที่แท้จริงต้องสร้างขึ้นจากเสียงของประชาชน หากปล่อยให้คนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่งกำหนดทิศทางของประเทศเพียงลำพัง การเมืองจะไม่สามารถพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้นได้
นายนิพนธ์กล่าวว่า ขอให้ประชาชนทุกกลุ่ม โดยเฉพาะคนรุ่นใหม่ ออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งอย่างเต็มที่ อย่าปล่อยให้โอกาสในการเปลี่ยนแปลงประเทศหลุดลอยไป การเลือกตั้งคือจุดเริ่มต้นของการเมืองที่โปร่งใสและเป็นธรรม
.........................................
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น