แค่ฝันกลางวันของกัมพูชา! แผนลงขันซื้อ F-15 มือสอง แม้จะมีเงิน สหรัฐอเมริกาก็ไม่ขายให้ - ข่าววันนี้

Post Top Ad

Share This

แค่ฝันกลางวันของกัมพูชา! แผนลงขันซื้อ F-15 มือสอง แม้จะมีเงิน สหรัฐอเมริกาก็ไม่ขายให้

Share This




ในโลกออนไลน์ของกัมพูชามีการพูดถึงแนวคิดที่น่าตื่นตาตื่นใจ คือการเรียกร้องให้ชาวกัมพูชาร่วมกันบริจาคเงินคนละ 5 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน เพื่อรวบรวมทุนซื้อเครื่องบินขับไล่ F-15 มือสอง จำนวน 8 ลำ มาประจำการในกองทัพอากาศ

แนวคิดนี้สะท้อนความปรารถนาที่จะเสริมสร้างศักยภาพทางทหารของชาติ แต่เมื่อพิจารณาในแง่ความเป็นจริง ทั้งในมิติของการเงิน ภูมิรัฐศาสตร์ และข้อกฎหมายระหว่างประเทศ จะเห็นได้ว่าโครงการนี้เป็นเพียง "ฝันกลางวัน" ที่ไม่มีวันเป็นจริงได้

แค่คำนวณก็ท้อ: ต้องเก็บเงินกี่ปีถึงจะซื้อได้?


แม้จะเป็นเครื่องบินมือสอง แต่ราคาของ F-15 ก็ยังสูงลิบลิ่ว ราคาของ F-15 C/D รุ่นเก่าที่ปลดประจำการแล้วอาจมีราคาประมาณ 29.1 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อลำ หากต้องการซื้อ 8 ลำ จะต้องใช้เงินทุนสูงถึง 232.8 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

เมื่อนำมาคำนวณกับจำนวนประชากรกัมพูชาที่มีอยู่ประมาณ 17 ล้านคน หากทุกคนร่วมใจกันบริจาคคนละ 5 ดอลลาร์สหรัฐต่อเดือน จะได้เงินเดือนละ 85 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

ดังนั้นในทางทฤษฎี จะต้องใช้เวลาราว 2 เดือน 3 สัปดาห์ในการรวบรวมเงินให้ครบ แต่ในความเป็นจริง การระดมทุนจากประชาชนทุกคนในประเทศเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ และตัวเลข 29.1 ล้านดอลลาร์นั้นเป็นเพียงการประเมินที่อาจต่ำกว่าความเป็นจริงมาก

ตัวอย่างเช่น ข้อตกลงที่สหรัฐฯ อนุมัติขายเครื่องบิน F-15ID (รุ่นพัฒนาจาก F-15EX) ให้อินโดนีเซียจำนวน 36 ลำ มีมูลค่าสูงถึง 1.39 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งเฉลี่ยแล้วตกอยู่ลำละกว่า 386 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หากเป็นราคานี้จริง ต่อให้เก็บเงินทั้งชาติก็ยังเป็นเรื่องที่ไกลเกินเอื้อม

ยิ่งไปกว่านั้น ราคาซื้อเครื่องบินเป็นเพียงจุดเริ่มต้น ค่าใช้จ่ายในการปฏิบัติการและบำรุงรักษาเครื่องบินขับไล่สมรรถนะสูงอย่าง F-15 นั้นมหาศาล ทั้งค่าเชื้อเพลิง ค่าอะไหล่ การฝึกนักบินและช่างเทคนิค ซึ่งอาจมีค่าใช้จ่ายต่อปีสูงกว่างบประมาณกลาโหมทั้งหมดของกัมพูชาก็เป็นได้ โดยในปี 2024 งบประมาณกระทรวงกลาโหมของกัมพูชาอยู่ที่ประมาณ 720.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ

กำแพงทางกฎหมายและการเมือง: สหรัฐฯ ไม่มีวันขายให้


ปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่ทำให้ดีลนี้เป็นไปไม่ได้ คือข้อจำกัดทางกฎหมายและการเมืองจากฝั่งสหรัฐอเมริกาเอง ปัจจุบัน สหรัฐฯ ได้ประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรทางการค้าอาวุธ (Arms Embargo) ต่อกัมพูชามาตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 2021

กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้แก้ไขกฎระเบียบการค้าอาวุธระหว่างประเทศ (International Traffic in Arms Regulations - ITAR) โดยจัดให้กัมพูชาอยู่ในรายชื่อประเทศที่ถูกปฏิเสธการออกใบอนุญาตส่งออกและนำเข้ายุทโธปกรณ์และบริการทางการป้องกันประเทศ

เหตุผลหลักที่สหรัฐฯ ใช้ในการคว่ำบาตรคือ ความกังวลต่อการขยายอิทธิพลทางทหารของจีนในกัมพูชา ประเด็นเรื่องการทุจริต และการละเมิดสิทธิมนุษยชนโดยรัฐบาลกัมพูชา

ดังนั้น ตราบใดที่มาตรการคว่ำบาตรนี้ยังคงอยู่ การขายเครื่องบินรบ F-15 ซึ่งถือเป็นยุทโธปกรณ์ทางการทหารขั้นสูงให้แก่กัมพูชาจึงเป็นสิ่งผิดกฎหมายของสหรัฐฯ เอง และแทบไม่มีความเป็นไปได้เลยที่รัฐบาลสหรัฐฯ จะอนุมัติการขายดังกล่าว

ความพร้อมของกองทัพ: มีปัญญาซื้อ แต่ไม่มีปัญญาใช้


สมมติว่ามีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น ทำให้กัมพูชาได้ F-15 มาครอบครอง คำถามต่อไปคือ กองทัพอากาศกัมพูชา (Royal Cambodian Air Force - RCAF) มีความพร้อมที่จะปฏิบัติการเครื่องบินรบที่ซับซ้อนเช่นนี้หรือไม่?

จากข้อมูลปัจจุบัน กองทัพอากาศกัมพูชามีขนาดเล็กและมียุทโธปกรณ์ที่ค่อนข้างจำกัดและล้าสมัย อากาศยานส่วนใหญ่เป็นเฮลิคอปเตอร์ลำเลียงที่ผลิตในรัสเซียและจีน เช่น Mi-8/Mi-17 และ Z-9

ส่วนเครื่องบินขับไล่ไอพ่นนั้น มีรายงานว่าเครื่องบินรบเก่าสมัยโซเวียตอย่าง MiG-21 และเครื่องบินฝึก L-39 ที่มีอยู่ถูกจอดทิ้งไว้และไม่สามารถปฏิบัติการได้แล้ว แม้จะมีแผนจัดหาเครื่องบินรบขนาดเบา L-39NG จากสาธารณรัฐเช็ก แต่ก็ยังถือว่าห่างชั้นจาก F-15 อยู่มาก

การก้าวกระโดดจากอากาศยานที่มีอยู่ไปสู่ F-15 เปรียบเสมือนการเปลี่ยนจากรถสามล้อไปขับรถแข่งฟอร์มูล่าวันในทันที

กัมพูชาขาดแคลนโครงสร้างพื้นฐานที่จำเป็นอย่างสิ้นเชิง ไม่ว่าจะเป็นโรงเก็บและซ่อมบำรุงที่ได้มาตรฐาน บุคลากรทั้งนักบินและช่างเทคนิคที่มีทักษะและความเชี่ยวชาญในระดับสูง ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องใช้เวลาและงบประมาณในการพัฒนาอีกมหาศาล

สรุป: ความฝันที่ห่างไกลจากความจริง


ท้ายที่สุดแล้ว แนวคิดการระดมทุนเพื่อซื้อเครื่องบินรบ F-15 ของกัมพูชาจึงเป็นได้เพียงจินตนาการที่ขาดการพิจารณาบนพื้นฐานของความเป็นจริงในทุกมิติ ไม่ว่าจะเป็น:

ความเป็นไปไม่ได้ทางการเงิน: ค่าใช้จ่ายทั้งในการจัดหาและบำรุงรักษาสูงเกินกว่าศักยภาพทางเศรษฐกิจและงบประมาณของประเทศอย่างมหาศาล

ความเป็นไปไม่ได้ทางกฎหมายและการเมือง: สหรัฐอเมริกาซึ่งเป็นผู้ผลิต มีมาตรการคว่ำบาตรการขายอาวุธให้กัมพูชาอยู่ ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญที่สุดที่ไม่อาจข้ามผ่านได้

ความเป็นไปไม่ได้ในการปฏิบัติการ: กองทัพอากาศกัมพูชาในปัจจุบันยังไม่มีความพร้อมทั้งในด้านบุคลากรและโครงสร้างพื้นฐานที่จะรองรับเครื่องบินรบสมรรถนะสูงเช่นนี้ได้

เรื่องราวนี้จึงเป็นบทเรียนที่ชี้ให้เห็นถึงช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างความปรารถนาชาตินิยมกับความเป็นจริงทางเศรษฐกิจ ภูมิรัฐศาสตร์ และศักยภาพทางการทหารของประเทศได้อย่างชัดเจน

.............................................

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

Pages